แจกฟรี สูตรยาอายุวัฒนะ พิชิต 108 โรค แค่ผสม “น้ำผึ้ง” กินกับสิ่งต่อไปนี้ รับรองโรคภัยไม่มาเยือนแน่ๆ !!

แจกฟรี สูตรยาอายุวัฒนะ พิชิต 108 โรค แค่ผสม “น้ำผึ้ง” กินกับสิ่งต่อไปนี้ รับรองโรคภัยไม่มาเยือนแน่ๆ !!


สมัยบรรพกาลกระทั่งปัจจุบัน แม้บางคนที่ไม่รู้ว่าน้ำผึ้งมีประโยชน์มากเพียงใดก็ยังชื่นชอบที่จะรับประทานน้ำผึ้ง เช่นผู้ที่นอนไม่ค่อยหลับ ผสมน้ำผึ้งกับน้ำอุ่นหรือนมร้อนจะช่วยให้หลับสบาย
แต่ถ้าได้ร่วมกับการนั่งสมาธิซัก 5 นาทีก่อนนอนยิ่งทำให้คืนนั้นเป็นคืนที่ได้พักผ่อนเต็มที่ และอีก 19 สูตรยาอายุวัฒนะ ต่อไปนี้เอาไปทำให้ถูกโรคตัวเองนะคะ

  • 1. บำรุงสุขภาพ น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะผสมน้ำอุ่นดื่มทุกวัน
  • 2. อดนอน น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ หรือผสมน้ำผลไม้
  • 3. ยาอายุวัฒนะ น้ำผึ้ง ? -1 ช้อนโต๊ะ ดื่มทุกวัน เช้า / ก่อนนอน
  • 4. นอนไม่หลับ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะดื่มเวลาอาหารเย็นหรือก่อนนอน
  • 5 .ไอ หลอดลมอักเสบมีเสมหะ กระเทียม 1-2 กลีบ (ตำให้ละเอียด) น้ำมะนาว ? เกลือเล็กน้อย พิมเสนหรือการบูร 2-3 เกล็ด น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

  • 6. ท้องอืด ท้องเฟ้อ น้ำผึ้ง ? ช้อนโต๊ะ น้ำขิงเข้มข้น ? ถ้วย เกลือเล็กน้อยดื่มวันล่ะ 3 เวลาหลังอาหาร
  • 7. ท้องผูก น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะดื่มก่อนนอน
  • 8. เด็กปัสสาวะรดที่นอน น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา (ไม่ผสมน้ำ) ดื่มก่อนนอน
  • 9. ท้องเสียรุนแรง น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ เกลือ ? ช้อนชา ผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว
  • 10. เด็กแหวะนม น้ำผึ้ง ? -1 ช้อนโต๊ะ ผสมนมให้เด็กดื่ม
  • 11. กล้ามเนื้อเป็นตะคริว น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ดื่มทุกมื้ออาหาร

  • 12. ล้างแผลฝีหนอง แผลเรื่อรัง น้ำผึ้ง 1 ส่วน ผสมน้ำ 9 ส่วนชะล้างแผล หัวหอมแดง 2 หัวตำให้ละเอียด+น้ำผึ้งพอกฝี น้ำสุกที่เย็นแล้วล้างให้สะอาด ใช้สำลีหรือผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งปิดบริเวณแผล
  • 13. แผลไฟไหมน้ำร้อนลวก ถูกท่อไอเสีย ใช้ผ้าพันแผลชุบน้ำผึ้งปิดแผล ไว้แล้วเปลี่ยนผ้าพันแผลทุก 12 ชั่วโมง
  • 14. โรคกระเพาะ ดื่มน้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะขณะปวด และ 3 ช้อนโต๊ะ ก่อนนอน
  • 15. ผู้ป่วยด้วยโรคพิษสุรา(ตับแข็ง/โรค ตับ) น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ ? ถ้วยแก้ว ดื่มวันละ 3 ครั้งเป็น ประจำ คอเหล้าดื่มน้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะก่อนนอน
  • 16. ผู้ป่วยริดสีดวงทวาร น้ำผึ้งผสมกระเทียมโทน บริโภควันละ 3 ครั้งหลังอาหาร

  • 17. เด็กโตช้า และโลหิตจาง น้ำผึ้งผสมนมดื่มเป็นประจำ
  • 18. เสียน้ำหรือเสียเลือด( 10-20 % ) น้ำ 1 ถ้วยแก้วผสมเกลือ ? ช้อนชา น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • 19. โรคเด็ก (ทางเดินอาหารผิดปกติ) น้ำผึ้ง 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ถ้วย
ขอขอบคุณข้อมูลที่มาจาก: http://www.siamok.com/view/182182
ออกจากงานมาขายหมูแดดเดียว ผ่อนบ้านผ่อนรถ เหลือเก็บอีกเดือนละ 30000 บาท

ออกจากงานมาขายหมูแดดเดียว ผ่อนบ้านผ่อนรถ เหลือเก็บอีกเดือนละ 30000 บาท





ออกจากงานมาขายหมูแดดเดียว ผ่อนบ้านผ่อนรถเหลือเก็บอีกเดือนละ 30000 บาทแบ่งปันเรื่องราวที่ทำให้หลายคนกำลังดิ้นรนสู้ชีวิตกับงานประจำรู้สึกมีความหวังขึ้นกับการบอกหนทางในการหาเงินเลี้ยงครอบครัวที่ไม่ต้องมาจากงานประจำอย่างเดียวอย่างสำหรับคนที่มีทุนน้อยๆอยากจะหาธุรกิจทำ ทำหมูแดดเดียวขายน่าจะเป็นอาชีพที่น่าสนใจเพราะทำให้อยู่ได้มีรายได้หลายหมื่นเลยทีเดียวสามารถผ่อนรถผ่อนบ้านแถมยังมีเงินเหลือเก็บ แต่จะขายได้ขายดีต้องมีสูตรเด็ดและรู้จักเสาะหาช่องทางการจัดจำหน่ายทำเพจสินค้า ฝากร้าน จนเริ่มมีลูกเจ้าประจำติดใจสั่งไปทอดขายบอกปากต่อปาก วันนี้เราจะเผยสูตรเด็ดกันว่าทำยังไงให้หมูแดดเดียวเนื้อแดดเดียวขายดีมีกำไรและรสชาติอร่อย

ปริมาณไม่ตายตัว วัดตวงกันเอง ได้ตามใจชอบ หมูแดดเดียว / เนื้อแดดเดียว
ส่วนผสม

  • เนื้อหมู 1 กิโลกรัม / เนื้อก็สูตรเดียวกัน
  • กระเทียม 1 หัวครึ่ง
  • รากผักชี 5-6 ราก
  • พริกไทย 2 ช้อนชา
  • งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 4 ช้อนชา
  • น้ำปลา 1.5 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 0.5 ช้อนโต๊ะ
  • ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด นำนื้อหมูมาแล่ เป็นชิ้นบางหน่อย (หนาประมาณ 1 เซ็นติเมตร) แต่อย่าบางมาก ถ้าบางมากไป เวลานำไปตากแดดจะแห้งมากเกินไป
  2. โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้ละเอียด ได้ที่แล้วนำไปหมักเนื้อหมู จากนั้นเติมน้ำตาล, น้ำปลา, ซอสหอยนางรม, ซอสปรุงรส, ผงปรุงรส และงาขาวลงไป
  3. คลุกเคล้าหรือนวดด้วยมือจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี และทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำเนื้อหมูไปตากแดด ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง กลับเนื้อหมูบ้างเป็นระยะ (โดยตากแดดไปสัก 2 ชั่วโมง เนื้อหมูด้านหนึ่งจะแห้ง ก็ทำการกลับเนื้อหมู แล้วตากอีกด้านไปอีก 2 ชั่วโมง)
  4. สำหรับการทอดให้ใช้น้ำมันปาล์ม เทลงในกระทะและนำไปตั้งไฟ รอจนน้ำมันร้อน จึงนำหมูแดดเดียวลงไปทอดจนสุกทั่ว
  5. จัดหมูหรือเนื้อทอดแดดเดียวลงในจาน พร้อมผักสดต่างๆ เช่น แตงกวา, มะเขือเทศ, ใบมะกรูดทอดกรอบ หรืออื่นๆตามชอบ
  6. เคล็ดลับ

    • การหมักหมู ถ้าหมักไว้นานเกินไปจะเป็นน้ำ จะเสียความเข้มข้นของรสชาติไป
    • การตากเนื้อถือว่าสำคัญเหมือนกัน ถ้าแดดจัดแดดแรง หากตากนานเกินไป เนื้อหมูจะแห้งเกินไป เวลาทอดแล้วเนื้อจะแข็ง ดังนั้นหากแดดแรง ตากเนื้อหมูแค่พอหมาดๆก็ควรเก็บได้เลย
    • สำหรับเวลาทอดนั้น ควรใช้ไฟกลาง อย่าใช้ไฟแรงมาก เพราะจะทำให้เนื้อหมูแข็ง ทานไม่อร่อย

    (แถม)หมูแดดเดียว สูตรใช้เตาอบไม่ง้อแดด กรอบนอกนุ่มใน

    พบกับสูตรการทำหมูแดดเดียวไม่ง้อแดด สูตรพิเศษฉุกเฉินในวันที่มีฝนตก รายได้ไม่สะดุดแน่นอนเพราะเตาอบก็สามารถทำหมูแดดเดียวได้นะเออ
    หมูแดดเดียวเตาอบ ไม่ต้องง้อแดด โดย คุณ KITTY CHEF สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

    ส่วนผสม หมูแดดเดียว

    • เนื้อหมู (สันคอ) 500 กรัม
    • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
    • งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
    • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
    • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ

    วิธีทำหมูแดดเดียว


นำเนื้อหมูมาล้างทำความสะอาด ซับให้แห้งแล้วหั่นยาวตามสไตล์หมูแดดเดียว
ผสมกระเทียม งาขาว น้ำตาลทราย และพริกไทย คนให้เข้ากัน

ใส่ซีอิ๊วขาวกับน้ำมันหอยลงไป คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี ก็เริ่มหมักหมูกันได้เลย ใส่หมูที่เตรียมไว้คลุกเคล้าให้เข้ากัน (พักหมูไว้ในตู้เย็น 2 ชั่วโมง)
พอครบเวลาก็นำหมูออกจากตู้เย็นมาวางเรียงบนตะแกรง เรียงให้ห่างกันเล็กน้อย
นำเข้าเตาอบ เปิดไฟบน-ไฟล่างระบบพัดลมที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส อบเนื้อจนแห้งประมาณ 4 ชั่วโมง
หมูแห้งแล้วค่ะ จะได้หมูแดดเดียวแบบนี้
ทอดหมูได้เลยค่ะ ทอดจนสุกเหลืองทั้งชิ้นนะคะ
หน้าตาดี แถมอร่อย ขอข้าวเหนียวร้อน ๆ ด้วยจ้า
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก : PostSod.com
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก KittyChef
25 ตุลาฯ วันพระราชพิธีฯ เปิดให้เข้าพื้นที่ตั้งแต่ 05.00 น. คาดรับคนไม่เกิน 2.5 แสนคน

25 ตุลาฯ วันพระราชพิธีฯ เปิดให้เข้าพื้นที่ตั้งแต่ 05.00 น. คาดรับคนไม่เกิน 2.5 แสนคน

4 ตุลาคม 2560 คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมว. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ใช้หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ชี้แจงทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศทั่วโลก


ปิดจราจรทางบก-น้ำ รอบพื้นที่ 25-29 ตุลาคม 18 เส้นทาง
     นายชัยวัฒน์ บุญชวลิต ผู้อำนวยการสถาบันการประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงขั้นตอนและวิธีการปฏิบัติในการถวายดอกไม้จันทน์ และเส้นทางการจราจรในวันซ้อมใหญ่และวันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า คณะกรรมการฝ่ายรักษาความปลอดภัยและจราจรจะปิดการจราจรงานพระราชพิธีฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยจะแจ้งปิดเส้นทางจราจรทางบกและทางน้ำ แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงซ้อมใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 7, 15 และ 21 ตุลาคม จำนวน 13 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเจริญกรุง, ถนนสุรวงศ์, ถนนพระราม 6, ถนนพิษณุโลก, ถนนราชดำเนินใน, ถนนเพลินจิต, ถนนสาทรใต้, ถนนสาทรเหนือ, ถนนพระราม 4, ถนนสุขุมวิท, ถนนวิทยุ, ถนนราชดำเนินนอก และถนนสนามไชย
              ส่วนในวันที่ 25-29 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปิดการจราจรโดยรอบท้องสนามหลวง พร้อมห้ามรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เข้าจอดทั้งสองฝั่งตลอดเวลา จำนวน 18 เส้นทาง ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน, ถนนสนามไชยทั้งเส้น, ถนนหลักเมือง, ถนนกัลยาณไมตรี, ถนนเจริญกรุง, ถนนพระพิพิธ, ถนนท้ายวัง, ถนนมหาราช (ข้างพระบรมมหาราชวัง), ถนนมหาราช (ข้างวัดพระธาตุ), ถนนพระจันทร์, ถนนเศรษฐการ, ถนนเชตุพน, ถนนพระยาเพชร, ถนนหน้าพระลาน, ถนนหน้าพระธาตุ, ถนนราชินี, ถนนพระอาทิตย์ และซอยสราญรมย์


     สำหรับการจราจรทางน้ำ กรมเจ้าท่า ประกาศพื้นที่ควบคุมการเดินเรือบางช่วงเวลา โดยวันที่ 25 ตุลาคม จะปิดทางด้านเหนือของสะพานกรุงธนบุรี ด้านใต้ของสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งแต่เวลา 12.00-21.00 น. วันที่ 26 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น. และห้ามเรือเดินทะเลลากจูงลำเลียงสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว เว้นแต่เรือของหน่วยงานราชการ ขณะที่เรือด่วนเจ้าพระยางดใช้ท่าเรือใน 3 ท่าเทียบเรือ คือ ท่าช้าง ท่าพระอาทิตย์ และท่าราชินี โดยให้ไปใช้ท่าเรือเทเวศร์และท่าเรือยอดพิมาน ส่วนเรือข้ามฟากจะงดให้บริการในบริเวณท่าเรือท่าพระจันทร์เหนือ, ท่ามหาราช, ท่าช้าง และให้ไปใช้ท่าเรือปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร และท่าเรือท่าเตียน ให้ไปใช้ท่าเรือราชินีแทน
     สำหรับเรือบริการนักท่องเที่ยว ด้านเหนือให้ใช้ท่าเรือปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร ด้านใต้ให้ใช้ท่าเรือราชินี
     นอกจากนี้ ในการให้บริการประชาชนกรมเจ้าท่าร่วมกับสมาคมเรือไทย และผู้ประกอบการเรือโดยสารที่จะจัดเรือให้บริการรับส่งประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีฯโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 25-26 ตุลาคม ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. และวันที่ 27 ตุลาคมตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. จะให้บริการด้านเหนือ ให้บริการจำนวน 3 ท่าเรือ ได้แก่ ท่าเรือกระทรวงพาณิชย์, ท่าเรือท่าน้ำนนทบุรี และท่าเรือสะพานพระราม 8 ส่วนด้านใต้ให้บริการจำนวน 2 ท่าเรือ คือ ท่าเรือสาทรและท่าเรือยอดพิมาน
     คณะกรรมการพระราชพิธีฯ เปิดให้ประชาชนวางดอกไม้จันทน์ 1,087 ซุ้ม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เน้นแต่งดำสุภาพเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมงาน

จำลองพระเมรุมาศ 9 แห่ง ทั่วกรุงเทพมหานคร
     นายพรพิทักษ์ แม้นศิริ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงข้อควรปฏิบัติของประชาชนที่จะเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพว่า ภายในกรุงเทพมหานครจะมีการจำลองพระเมรุมาศทั้งหมด 9 แห่ง ประกอบด้วย พระลานพระราชวังดุสิต, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเดิม, สวนนาคราภิรมย์, ลานปฐมบรมราชานุสรณ์ รัชกาลที่ 1, ลานคนเมือง, สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์), พุทธมณฑล, ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และซุ้มถวายดอกไม้รอบกรุงเทพมหานคร รวมถึงตามวัดต่างๆ 50 เขต รวม 113 ซุ้ม โดยเริ่มถวายดอกไม้จันทน์ในเวลา 9 นาฬิกา ยกเว้นพระเมรุมาศบริเวณสวนนาคราภิรมย์ จะเริ่มเปิดให้วางดอกไม้จันทน์ในเวลา 13.00 น. และในภูมิภาคอีก 878 ซุ้มในต่างประเทศทั่วโลก 96 ซุ้ม รวมทั้งในและต่างประเทศ 1,087 ซุ้ม


แต่งกายชุดดำสุภาพ เตือนพกอาหาร น้ำ เสื้อกันฝน ยาประจำตัว มาให้พร้อม
     นอกจากนี้ ประชาชนที่จะร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์งานพระราชพิธีฯ จะต้องแต่งกายสุภาพไว้ทุกข์เหมือนการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด โดยสุภาพสตรีสวมเสื้อสีดำเรียบไม่มีลวดลาย ไม่รัดรูป ห้ามเสื้อแขนกุดหรือสายเดี่ยว สวมกระโปรงดำคลุมเข่า ส่วนสุภาพบุรุษสวมเสื้อสีดำเรียบ เสื้อเชิ้ต กางเกงดำขายาว และสิ่งที่ควรเตรียมไปด้วย คือ ร่ม พัด พัดลมมือถือ เสื้อกันฝน ยาประจำตัว ยาหม่อง ยาดม และบัตรประจำตัวประชาชน และเพื่อความสะดวก ควรรับประทานอาหารมาก่อน นำอาหารและน้ำดื่มติดตัวมาด้วย ส่วนการเดินทางควรหลีกเลี่ยงการใช้รถส่วนตัว หากนำเด็กและผู้สูงอายุมาด้วย ควรเขียนชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ และสถานที่ติดต่อไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกง เผื่อเกิดเหตุพลัดหลง ทั้งนี้ประชาชนสามารถเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ได้ในพื้นที่ของตัวเองหรือพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่จะพาดผ่านบริเวณพุทธมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เนื่องด้วยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศและมีถ่ายทอดสดให้สามารถติดตามชมได้โดยตลอด
     สำหรับขั้นตอนการถวายดอกไม้จันทน์ จะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกโดยแบ่งประชาชนออกเป็น 9 แถว แถวละ 9 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ประจำซุ้มจะคอยส่งดอกไม้จันทน์ให้ประชาชน จากนั้นเข้าประจำจุด คำนับ 1 ครั้ง วางดอกไม้จันทน์ที่พาน แล้วคำนับอีก 1 ครั้งก่อนเดินแยกออกซ้าย-ขวา และรับหนังสือพระราชประวัติและหนังสือที่ระลึก


พื้นที่พระราชพิธีจุคนได้ไม่เกิน 2.5 แสนคน ได้เห็นริ้วขบวนไม่เกิน 4 หมื่นคน
     ออมสิน ชีวพฤกษ์ รมว. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนในท้องที่ต่างจังหวัด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใย จึงให้ทรงจัดสร้างพระเมรุมาศจำลองทั้ง 76 จังหวัด พร้อมมีจอ LED ถ่ายทอดสดบรรยากาศพระราชพิธี
     สำหรับคนที่อยากจะมาสัมผัสบรรยากาศ แต่พื้นที่จำกัด ทางตำรวจได้ชี้แจงว่า พื้นที่ตั้งแต่ลานพระราชวังดุสิตเรื่อยมาจนถึงบริเวณโดยรอบสนามหลวงสามารถบรรจุคนได้ 250,000 คนเท่านั้น และจากการคาดคะเนพื้นที่เบื้องต้นจะมีประชาชนที่อยู่บนพื้นที่ตั้งแต่ศาลฎีกาไปจนถึงศาลหลักเมืองประมาณ 40,000 คนมีโอกาสได้เห็นริ้วขบวนจริง
     โดยตำรวจจะเคลียร์พื้นที่โดยรอบพระราชพิธีวันที่ 24 ตุลาคม จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนเข้าในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 25 ตุลาคม

ขอบคุณบทความ เเละเครดิดภาพ
จาก  thestandard.co



โยนทิ้งทำไม..! ประโยชน์ดีๆของเปลือกไข่ อ่านจบแล้วคุณจะเปลี่ยนใจไปตลอดกาล

โยนทิ้งทำไม..! ประโยชน์ดีๆของเปลือกไข่ อ่านจบแล้วคุณจะเปลี่ยนใจไปตลอดกาล



ไข่ เป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย ทุกๆบ้านต้องมีไข่เก็บไว้ทำอาหารเสมอๆ กินไข่วันละฟองไม่ต้องไปหาหมอ แล้วเปลือกไข่ที่เหลือล่ะเอาไปทำอะไรได้บ้าง ลองไปดูกันค่ะ
ขั้นตอนการคั่วเปลือกไข่

เตรียมคั่วเปลือกไข่
  • ค่อยๆคั่วให้เปลือกไข่เหลือง

  • ทำไมต้องคั่ว เพื่อให้สารในเปลือกไข่เป็นประโยชน์มากขึ้นและไม่ให้มดขึ้นเวลานำไปใช้

  • หลังคั่วนำมาตำให้ละเอียดหรือถ้าไม่ตำจะนำไปใช้เลยก็ได้แต่ถ้าตำละเอียดเราสามารถใช้เป็นปุ๋ยทางใบได้

  • กะทะหนึ่งได้ประมาณนี้
สารในเปลือกไข่
เปลือกไข่ ประกอบด้วยสารแคลเซียมเป็นส่วนใหญ่ มีลักษณะเป็นแท่งๆมาต่อกัน ในการสร้างเปลือกไข่แต่ละฟองนั้นจะใช้แคลเซียมประมาณ 2 กรัม ที่ผิวของเปลือกไข่มีรูเล็กๆ อยู่มากกว่า 17,000 รู ช่วยระบายความชื้นและรับอากาศเข้าไป ซึ่งสำคัญมากต่อการพัฒนาการของลูกไก่ และมีสารเคลือบที่สามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียไม่ให้เข้าไปในตัวไข่ได้ ความแข็งแรงของเปลือกไข่ขึ้นกับอายุและการกินอาหารของแม่ไก่ ส่วนใหญ่แม่ไก่ที่ตัวใหญ่จะให้ไข่ไก่ขนาดใหญ่และมีเปลือกบาง
ช่องอากาศ จะอยู่ภายในเปลือกตรงส่วนหัวของไข่ ในเปลือกไข่มีเยื่อหุ้มเซลล์บางๆ 2 ชั้น ซึ่งจะอยู่ห่างออกจากกันเล็กน้อยเพื่อให้มีช่องว่างเกิดขึ้นสำหรับให้อากาศ เข้าไปได้ เมื่อไข่อายุมากขึ้นช่องอากาศจะขยายใหญ่ขึ้นเนื่องจากความชื้นและคาร์บอน ไดออกไซด์ระเหยออกไป และถูกทดแทนด้วยอากาศ ไข่จะเบาขึ้นและสามารถลอยน้ำได้ เราจึงสามารถทดสอดความสดของไข่ได้โดยการนำไปใส่น้ำ ไข่ที่สดจะจมอยู่ก้นภาชนะ
ประโยชน์เปลือกไข่
1. เปลือกไข่ไล่มด
เปลือกไข่ที่เผาไฟแล้วบดละเอียด จะมีสารแคลเซียมเมื่อผสมกับน้ำก็จะได้แคลเซียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นเบส(ด่าง) สามารถขับไล่มดได้ วิธีทำ ล้างเปลือกไข่ให้สะอาด เผาให้เหลืองและแห้งสนิท ใส่เปลือกไข่ที่ย่างแล้วใส่ครก ตำให้ละเอียด เทเปลือกไข่ลงในแก้ว 1 ส่วนแล้วเติมน้ำ 2 ส่วน คนให้เข้ากัน ตั้งทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง ใช้ฉีดพ่น หรือราดบริเวณรังมด
 2. เปลือกไข่ซักผ้า
เปลือกไข่ทำให้ผ้าขาว เวลาซักผ้า ให้เอาเปลือกไข่หลายๆฟองห่อผ้าเอาไว้ แล้วนำไปต้มรวมกับผ้าขาว เสร็จแล้วก็นำไปซักหรือขยี้ผ้าตามปกติทั่วไป จะทำให้ผ้าดูขาวผิดตาขึ้นเลยทีเดียว หรือนำเปลือกไข่บดละเอียดผสมกับโซดาซักผ้าอย่างละ 1 ส่วนเท่าๆ กัน ก็นำไปใช้แทนผงซักผ้าได้ค่ะ
3. สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิง
ในกรณีที่เราต้องการใช้เตาถ่าน โดยที่ขณะก่อไฟให้ทุบเปลือกไข่จนแตกละเอียดแล้วใช้กระดาษห่อมัดไว้วางข้าง ใต้ฟืนจะทำให้ ไฟแรงขึ้น
4. กินเปลือกไข่เพิ่มแคลเซียม
เปลือกไข่อุดมด้วยธาตุเหล็ก นำเปลือกไข่มาล้างให้สะอาด อบย่างให้ร้อนแล้วตำให้เป็นผงละเอียดนำไปหุงปนกับข้าวสาร เป็นอาหารที่มีคุณค่าบำรุงดีมาก และสารอาหารที่จะได้รับจากเปลือกไข่ ก็คือ แคลเซี่ยม หรือนำผงเปลือกไข่ไปผสมอาหารสัตว์เพื่อเสริมแคลเซียมก็ได้เหมือนกัน
5. เป็นเครื่องมือทำความสะอาด
สามารถนำเปลือกไข่ไป ใช้ขัดล้างอ่างล้างหน้าอ่างอาบน้ำและเครื่องใช้เซรามิคทั้งหลาย ใช้แทนแปรงล้างขวดหรือภาชนะที่มีปากแคบ ใส่เปลือกไข่ลงไปแล้วเขย่าๆขวด
6. ใช้เป็นปุ๋ยให้ต้นไม้ได้
นำเปลือกไข่ตำเป็นผง โรยลงไปในดินก็สามารถเพิ่มแคลเซียมให้กับดินได้ หรือใช้เปลือกไข่ป่นผสมในปุ๋ยหมัก ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น ช่วยให้พืชผักในบ้านของเราเจริญเติบโตงดงามกว่าเดิม
7. ใช้แทนยาฆ่าแมลง
ถ้าเราโรยเปลือกไข่ทุบหยาบๆ ไว้ตามใบของต้นไม้ จะช่วยป้องกันศัตรูพืชบางประเภทซึ่งกินใบไม้เป็นอาหาร เช่น ตัวหนอน เนื่องจากความแหลมคมของเปลือกไข่จะบาดผิวหนังที่ไม่มีอะไรปกคลุมของมัน ทำให้มันหลีกหนีจากต้นไม้ของเรา
จะเห็นว่า นอกจากไข่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว เปลือกไข่ก็อย่าเอาไปทิ้งค่ะ เก็บไว้ทำประโยชน์ได้อีกตั้งเยอะค่ะ
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก 
  • ลุงไก่ เกษตรคนดิน เดินตามรอยพ่อ
  • talk.mthai.com